การร้อยไหมโครงตาข่าย (Tess lift)
ไหมโครงตาข่าย (Tess lift) คืออะไร ?
ไหมโครงตาข่าย (TESS LIFT) เป็นไหมที่มีจุดเด่นแตกต่างจากไหมหลายๆประเภท นอกจากเป็นไหมที่ช่วยยกกระชับได้ดีแล้ว ยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวฟูขึ้นได้ โดยผ่านการรับรองจาก อย.ไทย, CE Mark และ KFDA (อย.เกาหลี)
ผลลัพธ์คงสภาพอยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี ตัววัสดุที่ทำมีความปลอดภัย แข็งแรง เงี่ยงไหมมีความพิเศษเป็น 2 ชั้น ด้านนอกจะเป็นลักษณะตาข่าย (Mesh) ล้อมรอบตัวไหม แบบ 360 องศา ด้านในเป็นเงี่ยงแบบหล่อมีความแข็งแรงวนรอบตัวเส้นไหม
เปรียบเทียบเหมือนกับการทำหัตถการ 1 อย่าง แต่ได้ผลลัพธ์ 2 – 3 อย่าง ในครั้งเดียว ค่อนข้างคุ้มค่า และเป็นไหมที่ปัจจุบันได้รับความนิยมสูงในวงการแพทย์
หลังจากร้อยไหม Tess lift ใบหน้าดูยกกระชับขึ้นทันที และในกรณีของเคสที่มีแก้มตอบ แก้มที่ตอบจะดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมีผลวิจัยออกมาแล้วว่าหลังจากที่ได้รับการร้อยไหมโครงตาข่ายประมาณ 1 เดือน ใบหน้าจะดูยกกระชับมากขึ้นกว่าตอนหลังทำ
และเมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือน ผิวจะดูกระชับและฟูขึ้นมากที่สุดโดยผลลัพธ์นี้จะคงสภาพอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี เนื่องจากเป็นผลลัพธ์จากการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวจากตัวไหม Tess lift นั่นเอง
ไหม Tess lift แตกต่างจากไหมอื่นอย่างไร ?
- ไหมโครงตาข่าย Tess lift Soft เป็นเส้นใยโครงตาข่าย 360 องศา ทำจากวัสดุ Polydioxanone (PDO) มีความปลอดภัยสูง ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
- เงี่ยงของไหมโครงตาข่าย จะเกาะติดกับเนื้อเยื่อได้ดี และตัวตาข่าย (Mesh) เป็นตัวกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นมาเกาะและเจริญเติบโตที่รูของไหมโครงตาข่าย ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจนได้มากกว่าไหมทั่วไป
- เส้นไหมมีแรงยึดและแรงตรึงผิวที่แน่น รวมถึงมีเทคนิคที่เฉพาะในการร้อย ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- การยึดของเนื้อเยื่อทำให้การร้อยไหมโครงตาข่ายมีความแข็งแรงมากกว่าปกติถึง 100 เท่า เมื่อเทียบกับการร้อยไหมแบบเดิม
- ใช้งานง่าย สะดวก โดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง
ขั้นตอนการร้อยไหม Tess lift
- แปะยาชาประมาณ 30 – 45 นาที
- หมอจะประเมินรูปหน้า แจ้งการวางเส้นไหมและจำนวนที่ใช้ตามปัญหาและความต้องการของคนไข้
- ฉีดยาชาบริเวณที่ต้องการร้อยไหม
- เริ่มทำหัถการ ด้วยขั้นตอนและอุปกรณ์ปลอดเชื้ออย่างเคร่งครัด
- ร้อยไหมในตำแหน่งที่หมอได้วางแนวไหมไว้ และถอดเข็มในตำแหน่งที่เข็มแทงเข้าไปครั้งแรก
- ร้อยไหมส่วนที่เหลือในรูของเข็มเดิมและร้อยไปในทิศทางใหม่ที่วางไว้ เพื่อให้เกิดแรงยกมากที่สุด เท่ากับร้อยไหม 1 เส้น ได้ถึง 2 แนวแรงซึ่งเป็นจุดเด่นของไหมโครงตาข่าย ที่จะเพิ่มความแข็งแรงในการยึดเกาะและการยกกระชับเนื้อเยื่อ
- หลังร้อยไหมครบตามที่ต้องการ จะมีบาดแผลเป็นรอยรูเข็มเล็กๆบริเวณไรผมตามจำนวนของเส้นไหมที่ร้อยในแต่ละด้าน โดยรูเข็มจะปิดเอง
ไหม Tess lift เหมาะกับใคร ?
ไหม TESS LIFT (โครงตาข่าย) จะเหมาะสำหรับคนที่มีผิวที่หย่อนคล้อย ผิวหลวมเหลวขาดคอลลาเจน หรือมีแก้มค่อนข้างตอบถึงตอบมาก ไขมันหาย เห็นกระดูกโครงหน้าได้ชัดเจน
ข้อดีของการร้อยไหม Tess lift
ตัววัสดุเป็น POLYDIOXANONE สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ มีความปลอดภัย และไม่มีสารตกค้างใต้ชั้นผิว
ไหมจะช่วยในการพยุงผิวหน้า เกี่ยวรั้งผิวหนังของเรา พร้อมเห็นผลยกกระชับทันทีหลังการร้อย และยังมีการสร้างคอลลาเจนอย่างรวดเร็วภายหลังการร้อยไหมโครงตาข่าย
ไหมโครงตาข่าย มีผลในการยกกระชับผิวระยะยาว กระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อในรูของไหมโครงตาข่าย จึงทำให้เกิดแรงยึดและแรงตรึงที่แข็งแรงกว่าไหมชนิดอื่นๆ ทำให้มีประสิทธิภาพในการยกกระชับมากกว่าไหมตัวอื่นๆหลายเท่า
หากเปรียบเทียบกับไหมตัวอื่นยิ่งระยะเวลาผ่านไปไหมจะค่อยๆตกลง แต่ตัวไหมโครงตาข่ายจะค่อยๆกระชับขึ้นเรื่อยๆ หากตัวไหมสลายแล้วยังคงมีแนวคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยพยุงผิวทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าไหมทั่วไป
ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาเพียง 30 นาที
อุปกรณ์ในการร้อยไหมโครงตาข่ายออกแบบมาให้มีการใช้งานง่าย สะดวก ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิว ทำให้บวมช้ำน้อยและไม่ต้องพักฟื้นนาน
ก่อนร้อยไหม Tess lift เตรียมตัวอย่างไร ?
- งดรับประทานวิตามินและอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามิน E, Collagen ใบแปะก๊วย น้ำมันตับปลา ก่อนร้อยไหมประมาณ 3 – 7 วัน
- งดกลุ่มยาจำพวกแอสไพรินและยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ในช่วงก่อนฉีด 7 วัน เนื่องจากส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือดทำให้เกิดเลือดหยุดช้า
- สระผมก่อนที่จะมาร้อยไหมเพราะบริเวณขมับจะเป็นทางไหมเข้าจะมีพลาสเตอร์ปิดแผลไว้ให้งดโดนน้ำ 2 วัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมาร้อยไหม 1 วัน เพราะแอลกอฮอล์เป็นสิ่งกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดทำให้เลือดออกง่ายเวลาร้อยไหม อาจเกิดอาการบวมช้ำได้
- หากมีนัดทำฟัน ให้ทำฟันก่อนมาร้อยไหมเพราะหลังร้อยไหมต้องงดอ้าปากกว้างๆเพื่อไม่ให้ไหมเคลื่อน
- แจ้งประวัติการแพ้ยาเช่น แพ้ยาชาแบบฉีด แพ้ยาชาแบบทา หากมีอาการแพ้ยาต่างๆ จะต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง
โดยสรุปแล้ว ไหมโครงตาข่ายมีความพิเศษที่ลักษณะของตัวเงี่ยงสองชั้น ถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี ยึดเกาะกับผิวได้แน่น และยกกระชับผิวได้ยาวนานกว่าไหมแบบเดิมๆ
นอกจากนั้นเทคนิคการร้อยก็มีความแตกต่างกับไหมทั่วไป โดยการใส่ไหมหนึ่งเส้นจะได้แรงดึงถึงสองแนวเนื่องจากไม่มีการตัดไหม แต่ใส่ไหมส่วนปลายกลับเข้าไปใต้ผิวเพื่อสร้างแนวแรงดึงที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นคนไข้ท่านใดที่มองหาผลลัพธ์ในเรื่องของการยกกระชับที่ดี เน้นการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน “ไหมโครงตาข่าย” ค่อนข้างตอบโจทย์
Lipo Lift
การฉีดไหม Lipo Lift คือเทคนิคการฉีดเส้นไหมที่เคลือบด้วยตัวยาสลายไขมัน เพื่อไปสลายไขมันบริเวณที่ต้องการ ไขมันส่วนเกินหรือเซลลูไลท์ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อยเพราะหลังทำยกกระชับขึ้นทันที ไม่ทิ้งสารตกค้างภายในร่างกาย
ฉีดไหม Lipo lift (ไลโปลิฟท์)
- เป็นการฉีดไหมสลายไขมันเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อสลายไขมันส่วนเกิน ลดเซลลูไลท์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อยหลังการสลายไขมัน
- เป็นเส้นไหมแช่ตัวยาสลายไขมัน หรือเรียกว่า”ไหมน้ำ”
- สกัดจากธรรมชาติ ไม่อันตราย ไม่ตกค้าง
- กระตุ้นการสลายไขมันต่อเนื่อง7-14 วัน
- ไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่ช้ำ
- หลังทำยกกระชับขึ้นทันที 20%
ขั้นตอนการทำงานของ ไหม Lipo Lift
- ตัวยาจะเข้าไปลดขนาดเซลล์ไขมันให้เล็กลงและกำจัดออกจากร่างกายด้วยกลไกธรรมชาติ
- ส่วนตัวเส้นไหม จะกระตุ้นคอลลาเจนช่วยกระชับใบหน้า จึงทำให้บริเวณที่ฉีดไหม Lipo Lifting ไม่เกิดความหย่อนคล้อยจากไขมันที่ถูกกำจัดออกไป
- ส่งผลให้บริเวณที่ทำดูเล็กลง ยกกระชับขึ้น ไม่หย่อนคล้อย ไม่ย้อยลงมา
- โดยสามารถทำ Lipolift ได้ตามบริเวณร่างกายเช่น หน้าท้อง ต้นขาด้านนอก ต้นขาด้านใน ก้น ต้นแขน หลัง หลังส่วนล่างเอว คางสองชั้น ร่องแก้ม แก้มย้อย เป็นต้น
ลักษณะไหม Lipo Lift (ไลโปลิฟท์)
- เส้นไหมดีไซน์ MONO (ไหมเรียบ) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนเติมเต็มผิวให้กระชับและลดความหย่อนคล้อย
- วัสดุไหมละลาย PDO สลายได้เองโดยไม่มีสิ่งตกค้าง แต่คอลลาเจนที่อยู่ในไหมยังคงถูกกระตุ้น ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
- เส้นไหมเคลือบตัวยาสลายไขมัน สกัดจากธรรมชาติโดยจะออกฤทธิ์ในการลดขนาดเซลล์ไขมันและสามารถกำจัดออกจากร่างกายด้วยกลไกธรรมชาติ
- ใช้เข็มปลายแหลมขนาดเล็กในการฉีดไหมเข้าไปในใบหน้า ซึ่งจะมีแผลมีเพียงตุ่มเล็กๆ และจะหายไปเองประมาณ 1-2 ชม.
ฉีดไหม Lipo Lift (ไลโปลิฟท์) เห็นผลอย่างไรและอยู่ได้นานแค่ไหน ?!
หลังทำทันทีจะรู้สึกว่าใบหน้ากระชับขึ้นเลยประมาณ 20% และหลังจากนั้นจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ภายในเวลา 2 – 4 สัปดาห์ โดยการทำงานของเส้นไหมจะไปกระตุ้นคอลลาเจนมาซ่อมแซม จึงทำให้ผิวไม่เกิดความหย่อนคล้อย ซึ่งผลของการรักษาอยู่ที่ระยะเวลา 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำด้วยเช่นเดียวกัน หากสาวๆ ดูแลตัวเองเป็นอย่างดีก็สามารถยืดระยะเวลาของผลลัพธ์ให้นานขึ้นไปอีก
วิธีดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำ
- หลังทำสามารถทานวิตามินและอาหารเสริมได้ตามปกติ
- งดการแต่งหน้าทันทีหลังทำหรือหลังจากนั้นประมาณ 6-8 ชม.
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ต่อเนื่องนาน 2-4 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการกำจัดไขมันออกจากร่างกาย
- งดการนวดคลึง ขยับใบหน้ามากๆ และโดนความร้อนบริเวณที่ทำการรักษา 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของเส้นไหม
Foxy eyes
หลายคนที่มีปัญหาตาตก ตาง่วง การศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมคือการทำ Foxy Eyes เพื่อดึงหางตาให้ยกขึ้น ทำให้ดวงตาดูคมและมีเสน่ห์มากขึ้น ซึ่งไม่ได้มีแต่การผ่าตัดศัลยกรรมเพียงอย่างเดียว ยังสามารถใช้เทคนิคทางการแพทย์และหัตถการความงามอื่น ๆ ช่วยดึงให้หางตายกขึ้นได้เช่นกัน
ลักษณะของตาแบบ Foxy Eyes
ดวงตาแบบ Foxy Eyes คือตาที่มีลักษณะหางตายกขึ้น คล้ายตาจิ้งจอก ทำให้ใบหน้าดูคมและสดใสขึ้น ช่วยแก้ปัญหาตาตก ตาง่วง ตาเศร้า การทำ Foxy Eyes จึงเป็นการทำหัตถการที่ต้องเน้นบริเวณหางตาและคิ้วให้ดูคมเฉี่ยว
ตา Foxy Eyes เหมาะกับใคร ?
การทำตา Foxy Eyes เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ใบหน้าดูคมขึ้น แต่นอกจากจะเป็นเทรนด์ความงาม ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาดวงตาที่ดูไม่สดใสได้ ทำให้เจ้าของใบหน้ามีความมั่นใจมากขึ้น
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหางตาตก หนังตาหย่อนคล้อย
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบริเวณหางตา
- เหมาะกับผู้ที่มีดวงตาโศก ตาง่วง
- เหมาะกับผู้ที่อยากปรับลุคให้ใบหน้าดูคมเฉี่ยวมากขึ้น
Foxy Eyes ทำด้วยวิธีไหนได้บ้าง ?
ผ่าตัดศัลยกรรมตา Foxy Eyes
การผ่าตัดศัลยกรรมตาเพื่อทำ Foxy Eyes ใช้หลักการคล้ายการผ่าตัดดึงหน้า โดยการดึงหางตาให้ยกสูงแล้วเย็บผิวหนัง มีทั้งแบบใช้ยาชาและการวางยาสลบ ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี
ร้อยไหมยกหางตา Foxy Eyes
การร้อยไหมเป็นวิธีการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมมานาน สำหรับการทำ Foxy Eyes จะใช้เทคนิค Foxy Eyes Thread Lift โดยการร้อยไหมเข้าไปบริเวณหางตกให้ยกไปบริเวณเหนือหางตา ซึ่งจะใช้เงี่ยงไหมในการเกี่ยวผิวให้ยกขึ้น การร้อยไหมไม่ใช่หัตถการที่อยู่ได้ถาวร เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนลุคบ่อย ๆ หรือตามเทรนด์ความงามในช่วงนั้น
ทำ Foxy Eyes ด้วยเครื่องมือยกกระชับ
ในหมวดเครื่องมือยกกระชับ ไม่ว่าจะเป็น Hifu, Ulthera, Thermage เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์หรือคลื่นเสียง ส่งผลพลังงานลงไปใต้ชั้นผิวให้เกิดความร้อน ผิวจะหดตัวและยกกระชับขึ้น คนที่อยากทำ Foxy Eyes แต่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากร้อยไหม สามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยได้ แต่ก็จะไม่ได้ผลลัพธ์ชัดเจนเหมือนวิธีอืื่นๆ
หากสนใจ Foxy Eyes แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อให้ประเมินและแนะนำวิธีที่เหมาะสม เนื่องจากลักษณะผิว ลักษณะตา ความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ถ้าอยากให้เห็นผลถาวร พร้อมจัดการปัญหาตาตก ผิวตาย่น ริ้วรอย ไปพร้อม ๆ กัน อาจเลือกใช้การผ่าตัดศัลยกรรม ส่วนการใช้เครื่องมือยกกระชับ จะเหมาะทำควบคู่กับวิธีอื่นเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นมากกว่า เพราะไม่ได้ให้ผลชัดเจนแต่แรก
ส่วนถ้าอยากปรับเปลี่ยนรูปทรงตาให้โฉบเฉี่ยวขึ้น ตามเทรนด์ การร้อยไหมยกหางตาก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีได้เช่นเดียวกับการผ่าตัด โดยที่ใช้เวลาทำน้อยกว่า ไม่ต้องผ่าตัดหรือเสียเวลาพักฟื้น
ร้อยไหม Foxy Eyes ได้ผลแค่ไหน ?
สำหรับการร้อยไหม Foxy Eyes แนะนำเป็นไหม Tesslift หรือไหมโครงตาข่าย มีข้อดีคือวัสดุมีความแข็งแรง ไหม 1 เส้น จะเทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไป 80 เท่า และผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity)
สรุปแล้ว Foxy Eyes เป็นเทรนด์ความงามที่กำลังได้รับความนิยม แต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับทุกคน เพราะแต่ละคนก็มีจุดเด่นบนใบหน้าที่แตกต่างกันออกไป ก่อนตัดสินใจทำควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อให้ออกแบบใบหน้า และแนะนำวิธีที่เหมาะสม ศึกษาถึงข้อดี ข้อเสีย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจมากที่สุด
ปรึกษาด้านการทำ ร้อยไหม
Line: @bkindclinic
โทร: 094-924-6463
#BkindClinic #คลินิกความงาม #ร้อยไหม #Tesslift #Lipolift #Foxyeyes