Diode Laser

กําจัดขน Diode laser (ไดโอด เลเซอร์)

Diode laser (ไดโอด เลเซอร์) เลเซอร์ที่เหมาะกับคนผิวขาวไปจนถึงผิวสองสี เพราะเป็นเทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขนที่ทันสมัย คลื่นความยาวแสงสามารถเข้าไปทำลายรากขน โดยไม่ทำลายเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง หลังทำนอกจากเส้นขนจะเริ่มหลุดร่วงและบางลงแล้ว ก็ยังไม่มีปัญหาผิวไหม้เบิร์นแดงอีกด้วย ที่สำคัญยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังไก่ ปัญหาขนคุด และช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

Diode laser (ไดโอด เลเซอร์) คืออะไร

Diode (ไดโอด) เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขนที่ทันสมัยและเป็นที่นิยมมาก เพราะสามารถกำจัดขนได้ดี ไม่เบิร์นผิว และไม่เจ็บ โดยเป็นเลเซอร์ที่มีหลายความยาวคลื่น มักนิยมใช้ความยาวคลื่น 800-810 และ 1,064-1,350 นาโนเมตรในการกำจัดขน ซึ่งสามารถกำจัดเส้นขนได้ลึกถึงระดับผิวหนังชั้นในส่วนลึก หลังทำจึงมักมีเส้นขนหลุดออกมาเสมอ และเส้นขนจะเริ่มขึ้นน้อยลง หรือขึ้นใหม่เป็นเส้นบางๆ

นอกจากจะช่วยกำจัดขนได้แบบถาวรแล้ว Diode laser (ไดโอด เลเซอร์) ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทำเลเซอร์ดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น และยังเป็นวิธีกำจัดขนที่ทำได้ทั้งในคนที่มีผิวสีอ่อนไปจนถึงผิวสีเข้มเพราะเป็นเลเซอร์ที่ทำงานด้วยการพุ่งเข้าไปจับเมลานิน (เซลล์เม็ดสี) ที่อยู่ในเส้นขนจึงมีประสิทธิภาพสูง ให้ผลลัพธ์อย่างยาวนาน และปลอดภัยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อผิวหนังบริเวณโดยรอบ หลังทำเลเซอร์ผิวจึงไม่เบิร์นแดงหรือแสบร้อน

Diode laser (ไดโอด เลเซอร์) กำจัดขนตรงไหนได้บ้าง

ช่วงความยาวคลื่นที่หลากหลายของ Diode laser (ไดโอด เลเซอร์) ทำให้สามารถใช้กำจัดขนได้หลายบริเวณ ตั้งแต่แขน ขา ไปจนถึงใบหน้า และยังเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาขนคุด ปัญหารักแร้มีตุ่มหนังไก่ หรือปัญหารักแร้ดำคล้ำอีกด้วย

บริเวณที่สามารถกำจัดขนได้

ขนแขน
ขนรักแร้
ขนหน้าอก
ขนที่หลัง
ขนบิกินี่หรือบราซิลเลียน
ขนขา
หนวดเครา

ระยะห่างในการทำ Diode laser (ไดโอด เลเซอร์)

ควรเว้นระยะห่างในการทำครั้งต่อไปประมาณ 4-6 สัปดาห์ หลังทำเลเซอร์เส้นขนจะเริ่มหลุดร่วงภายใน 1 สัปดาห์ และภายใน 2-4 สัปดาห์แรกจะมีเส้นขนอ่อนๆ เกิดขึ้นใหม่ ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้อาจมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปริมาณขน ลักษณะเส้นขน และสีผิวของแต่ละคนค่ะ

Diode laser (ไดโอด เลเซอร์) ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Diode (ไดโอด) ต้องทำต่อเนื่องประมาณ 5-6 ครั้ง จึงจะเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนว่าเส้นขนน้อยลง โดยในช่วงแรกๆ ที่ทำก็จะเริ่มเห็นผลว่ามีเส้นขนหลุดร่วงหลังทำ และเส้นขนที่ขึ้นใหม่จะเป็นเส้นอ่อนและบางลงกว่าเดิม เมื่อมีการทำอย่างต่อเนื่อง 5-8 ครั้งก็จะเริ่มเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ก็จะขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อเลเซอร์ของแต่ละคน รวมถึงความเข้ม ความหนาของเส้นขนด้วย และเส้นขนในแต่ละส่วนของร่างกายก็จะมีอายุไม่เท่ากัน จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทำเสมอ

Diode laser (ไดโอด เลเซอร์) แตกต่างกับ Yag laser อย่างไร

มีความแตกต่างกันในเรื่องช่วงความยาวคลื่น ซึ่ง Yag laser จะมีความยาวคลื่นอยู่ที่ 1,064 นาโนเมตร จึงเหมาะกับคนที่มีผิวสีแทนหรือผิวสีเข้ม และเหมาะกับบริเวณที่ต้องการความละเอียด เช่น ใบหน้า หนวดเครา หรือจุดซ่อนเร้น ส่วน Diode laser (ไดโอด เลเซอร์) จะมีช่วงความยาวคลื่นที่หลากหลายกว่า คือตั้งแต่ 800-1,350 นาโนเมตร จึงเหมาะสำหรับการกำจัดขนกับคนทุกสีผิว ทุกสภาพผิว ในขณะที่ทำก็จะมีระบบความเย็น ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บหรือดีดผิวเหมือน Yag โดยสามารถทำเลเซอร์ได้หลากหลายบริเวณ เช่น แขน ขา รักแร้ เป็นต้น

เตรียมตัวอย่างไรก่อนทำ Diode laser (ไดโอด เลเซอร์)

โกนขนบริเวณที่จะทำเลเซอร์ไม่เกิน 1 วัน ห้ามถอนหรือแว๊กซ์ เพราะการโกนขนจะทำให้รากขนยังอยู่
งดการขัดผิว ทำทรีตเมนต์ งดการใช้โรลออน การใช้สบู่หรือครีมที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ หรือ AHA เพราะอาจทำให้ผิวอ่อนแอ ไม่พร้อมต่อการทำเลเซอร์
ช่วง 1 อาทิตย์ก่อนทำเลเซอร์ ไม่ควรทำกิจกรรมที่ต้องตากแดดเป็นเวลานาน เพราะจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการกำจัดขนลดน้อยลง
ก่อนทำเลเซอร์ 3-4 สัปดาห์ ควรงดการแว๊กซ์หรือถอนขนในบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์ เพื่อให้รากขนโตเต็มที่ เมื่อทำเลเซอร์จะได้ทำลายเส้นขนอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
หากทำเลเซอร์ขนบิกินี่หรือบราซิลเลียน ควรทำหลังประจำเดือนหมดประมาณ 5-7 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการระคายเคือง

Diode laser (ไดโอด เลเซอร์) เจ็บไหม

การทำเลเซอร์แบบ Diode (ไดโอด) ถือเป็นเลเซอร์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวมาก ระหว่างที่ทำจึงจะไม่รู้สึกเจ็บใดๆ และยังเป็นเลเซอร์ที่ตัวเครื่องมีระบบทำความเย็น ขณะทำจึงจะรู้สึกเย็นๆ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะร้อนแสบผิวหรือรู้สึกเจ็บ แต่ถ้าหากรู้สึกว่าร้อนหรือเจ็บเกินไปก็สามารถบอกผู้เชี่ยวชาญให้ปรับลดระดับความแรงได้ตลอดเวลาที่ทำ

ข้อดีและข้อเสียของ Diode laser (ไดโอด เลเซอร์)

ข้อดี

มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนกับทุกสีผิวและผิวทุกประเภท
มีความอ่อนโยนต่อผิวมากๆ ไม่เบิร์นผิว และเป็นเลเซอร์ที่มีความปลอดภัยสูง
แสงเลเซอร์สามารถส่งพลังงานไปได้ลึกถึงผิวหนังชั้นลึก ทำให้กำจัดรากขนได้ดี
เลเซอร์ไม่ทำลายเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ทำให้ผิวไม่ไหม้หรือแสบร้อนหลังทำ
มีระบบทำความเย็น ช่วยให้ไม่รู้สึกเจ็บ และช่วยให้ระหว่างที่ทำไม่เกิดการบาดเจ็บของผิวหนัง
ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียน รูขุมขนดูเล็กลง ลดตุ่มหนังไก่ และผิวดูกระจ่างใสขึ้น

ข้อเสีย

คนที่มีเส้นขนสีเข้มและหนาอาจเห็นผลลัพธ์ที่ดีและเร็วกว่าคนที่มีเส้นขนสีอ่อนหรือบาง เพราะหลักการทำงานของเลเซอร์คือจะเข้าไปจับเม็ดสีเมลานินในเส้นขน ซึ่งเม็ดสีเหล่านี้จะพบได้มากกว่าในเส้นขนที่มีสีเข้มหรือหนา
อาจมีอาการระคายเคือง บวม แดงบริเวณที่ทำเลเซอร์ได้ในช่วง 2-3 วันแรก แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเอง
ไม่สามารถทำให้เส้นขนหลุดร่วงหมดหลังจากทำเลเซอร์แค่ครั้งเดียว

การดูแลตัวเองหลังทำ Diode laser (ไดโอด เลเซอร์) อย่างไร

หลังทำเสร็จสามารถอาบน้ำ ทำความสะอาดผิดด้วยสบู่ได้ตามปกติ
หากรู้สึกว่าผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์มีอาการคันหรือระคายเคือง สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้ทาได้ หรือหากมีอาการบวมแดงก็สามารถประคบเย็นได้
หลีกเลี่ยงการโดนแดดหรืออยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน และควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพราะผิวหลังทำเลเซอร์จะไวต่อแสงแดดมาก
ช่วง 2-3 วันหลังทำเลเซอร์ ควรงดทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อนสูง เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ โยคะร้อน เป็นต้น
หลังทำเลเซอร์ 7 วัน ควรงดขัดหรือสครับผิวบริเวณที่ทำ รวมถึงงดใช้ครีมที่มีแอลกอฮอล์ หรือส่วนผสมของกรดวิตามินเอ และ AHA
หากทำเลเซอร์ที่บริเวณรักแร้ควรงดใช้โรลออน 3 วัน เพื่อลดการระคายเคือง
หลังจากทำเลเซอร์แล้ว หากมีเส้นขนขึ้นใหม่และต้องการกำจัด ควรใช้วิธีโกนเท่านั้น พยายามเลี่ยงการถอนหรือแว๊กซ์
หากมีอาการผิดปกติบริเวณที่ทำ ควรรีบกลับมาพบแพทย์